จากกรณีที่ นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล เลขาธิการเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย ออกมาให้ข้อมูลกับทีมข่าว PPTV ว่า มีอดีต สส.เพื่อไทย บางคน บางกลุ่ม ทำธุรกิจกัญชา และการที่นายกรัฐมนตรีประกาศให้กัญชากลับไปเป็นบัญชียาเสพติด หากจะปลูกต้องมีกฎเกณฑ์กำหนดนั้น เป็นการเอื้อผลโยชน์ให้พรรคพวกนั้น
ล่าสุด น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กับ PPTV เป็นที่แรก เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว
น.ส.ลิณธิภรณ์ ชี้แจงว่า เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน การกำหนดกติกาในการปลูกกัญชาใหม่ จำกัดเฉพาะคนที่มีใบอนุญาต โดยมีการกำหนดสเปกผู้ประกอบการ ที่จะสามารถปลูกกัญชาได้ ไม่ใช่การกีดกันผู้ประกอบการรายย่อย เพียงแต่เป็นการจำกัดกรอบในการใช้กัญชา หากมองด้วยใจเป็นกลางคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ในปัจจุบัน เราเปิดกัญชาเสรี และมีร้านผู้ค้ารายย่อยค่อนข้างเยอะ ผลที่ตามมา คือ ผู้ค้ารายย่อยส่วนใหญ่ เน้นค้าขายไปในเชิงสันทนาการ ไม่ได้ควบคู่ไปกับการค้าขายเชิงการแพทย์ ตามจุดประสงค์ของกฎหมายฯ ที่ออกมาคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า หากกำหนดกติกาในการปลูกกัญชาใหม่ ให้ปลูกเพื่อใช้ทางการแพทย์เท่านั้น จะเป็นการปิดโอกาสเติบโตของผู้ค้ารายย่อย ที่ค้าขายกัญชาเพื่อสันทนาการหรือไม่
น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า รัฐไม่ได้ต้องการผูกขาดการค้าเพื่อเอื้อประโยชน์ให้คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่แค่ต้องการจำกัดกรอบการค้าขายกัญชาเสรี ให้เป็นผลบวกทางสังคมมากขึ้น ให้เป็นไปในเชิงทางการแพทย์เป็นหลัก
ส่วนในเชิงสันทนาการคงไม่ได้ปิด แต่ต้องมาดูกันว่าจะขายในเชิงสันทนาการ จำกัดการขายในปริมาณเท่าใดถึงเหมาะสม หากขายเสรีแบบทุกวันนี้คงไม่ได้ เพราะมีผลเสียมากกว่าผลดี
น.ส.ลิณธิภรณ์ ย้ำว่า หากจะค้าขายกัญชาต่อ ขอให้ค้าขายเพื่อใช้ทางการแพทย์ รัฐไม่ได้มีเจตนาผูกขาดการค้า หรือเอื้อผลประโยชน์ให้กลุ่มใดเป็นพิเศษ ซึ่งรายละเอียดการดำเนินธุรกิจกัญชา ก่อนดึงกัญชากลับไปเป็นบัญชียาเสพติด ทางนายกรัฐมนตรี กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทย จะจัดเวทีพูดคุยกับผู้ประกอบการด้านกัญชา เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบการฯ ก่อนดึงกัญชากลับไปสู่บัญชียาเสพติด
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าว PPTV ลองติดต่อไปยัง อดีต สส.พรรคเพื่อไทย ที่นายประสิทธิ์ชัย กล่าวอ้างว่า ถือหุ้นธุรกิจกัญชา ด้วย ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร หากแก้กฎการค้าขายกัญชา ผลประโยชน์จะกระจุกตัวอยู่แค่คนวงในพรรคเพื่อไทย หรือไม่
ปรากฎว่า อดีต สส.พรรคเพื่อไทยคนดังกล่าว ปฎิเสธให้ข้อมูล ผู้ที่ออกมาชี้แจงรายละเอียดเรื่องนี้ จึงเป็น น.ส.ลิณธิภรณ์ รองเลขาฯ พรรคเพื่อไทยแทน โดยยืนยันว่า ไม่ใช่การผูกขาด แต่เป็นการกำหนดกฎเกณฑ์ใหม่ และ แก้ไขกฎหมายเพื่อสังคมที่ดีขึ้น แต่ก่อนจะแก้ไขคงมีการทำประชาพิจารณ์ก่อน